เลนส์ของเรา

NOPPADOL VISION มีเลนส์ให้ลูกค้าเลือกหลากหลายแบบเพื่อให้
เหมาะสมกับการใช้งานของคุณลูกค้าทุกท่าน

เลนส์แต่ละชนิดต่างกันอย่างไร..

เลนส์สำหรับแว่นต่ามีแบบไหนบ้าง..แล้วแต่ละประเภทมีคุณสมบัติอย่างไร
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ด้านล่างนี้เลย…

เลนส์มัลติโค้ด (Multicoat)

คือมาตรฐานของเลนส์ในปัจจุบัน จะนำเลนส์ไปเคลือบสารมัลติเลเยอร์เพื่อลดการสะท้อนที่ผิวเลนส์ซึ่งจะทำให้ภาพใส คมชัด กว่าเลนส์ทั่วไป และข้อดีของเลนส์มัลติโค้ด (Multicoat) ไม่ได้มีแค่ภาพใสอย่างเดียวแต่ยังช่วยป้องกันรังสี UV ได้ที่ 380-400 นาโนเมตร ช่วยลดการเป็นต้อกระจก นอกจากนั้นตัวเลนส์ยังทนต่อรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดีและทำให้ทำความสะอาดได้ง่าย…

เลนส์บลูบล็อค (Blueblock)

คือเลนส์ที่เคลือบฟิล์มป้องกันแสงสีฟ้าที่เข้ามา โดยแสงสีฟ้านั้นเป็นแสงที่อยู่ในช่วงความยาวคลื่น 400-450 นาโนเมตร มีความอันตรายไม่แพ้รังสี UV โดยจะส่งผลโดยตรงกับเซลล์ประสาทตานำมาสู่โรคจอประสาทตามเสื่อม หลายคนอาจสงสัยว่าแหล่งกำเนิดแสงสีฟ้าที่อยู่รอบตัวเรามีอะไรบ้าง หลักๆเลยคือแสงจากหน้าจออิเล็กทรอนิคทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น จอโทรทัศน์ , โทรศัพท์มือถือ และ จอคอมพิวเตอร์ เป็นต้น ส่วนวิธีการสังเกตุเลนส์บลูบล็อค (Blueblock) เลยคือหน้าเลนส์จะสะท้อนเป็นสีฟ้าส่วนใหญ่ แต่จะมีเลนส์รุ่นใหม่บางชนิดไม่ได้ใช้ฟิล์มเคลือบป้องกันแสงสีฟ้าแต่จะใช้สารใส่เข้าไปในเนื้อเลนส์ตั้งแต่ตอนขึ้นรูปแทน ซึ่งเลนส์จำพวกนี้จะไม่สะท้อนแสงสีฟ้าแต่จะกันแสงสีฟ้าเหมือนกันและจะติดสีเหลืองน้อยกว่า

เลนส์ออโต้ (Auto or Transition)

คือเลนส์ที่สามารถปรับแสงได้ เมื่อเวลาอยู่ในที่ร่มตัวเลนส์ก็จะใสเหมือนเลนส์ธรรมดา แต่เมื่อเวลาเราออกแดดกลางแจ้งแล้ว ตัวเลนส์จะทำการปรับเป็นสีเข้มทำหน้าที่คล้ายกับแว่นกันแดด ซึ่งสามารถทำให้ผู้ที่มีปัญหาสายตาสามารถใส่แว่นออกแดดได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องใส่แว่นกันแดด ซึ่งในแต่ละยี่ห้อจะมีชื่อเรียกแตกต่างกัน เช่น Transition ของ Essilor / PhotoFusion ของ Zeiss / Sensity ของ Hoya นั้นเอง

เลนส์สองชั้น (Bifocal Lenses)

คือเลนส์แว่นตาที่มีสองระดับ มีสองค่าสายตาในแว่น 1 อัน สามารถทำให้เราเห็นทั้งระยะไกลและใกล้ได้ในแว่น 1 ตัว แต่อย่าเพิ่งดีใจไปค่ะสำหรับเลนส์สองชั้นนั้นก็ยังมีข้อเสียอยู่มากพอควรในเรื่องของระยะรบกวนสายตาหรือกระทั่งการใส่แว่นเดินก็พบปัญหาอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว เลนส์สองชั้นก็เป็น 1 ในตัวเลือกที่คนมีภาวะสายตายาวนั้นเลือกใช้ หรือแม้กระทั่งคนที่มีปัญหาการใช้เลนส์ชั้นเดียว(single vision) แล้วมองไกลไม่ได้ ก็มักจะเลือกเลนส์สองชั้นแบบนี้เข้าไปทดแทน

วิธีใช้

สำหรับเลนส์สองชั้นนั้นจะใช้งานได้ไม่ยาก เพียงสวมแว่นมองตรงไปข้างหน้า นั่นก็จะเป็นการมองไกล ส่วนการมองใกล้ก็เพียงเหลือบตาลงมา ก้มหน้าเล็กน้อย ก็จะมาสามารถมองใกล้ได้ สิ่งที่ควรระวังของเลนส์สองชั้น ควรใส่ปรับตัวอยู่กับที่ เช่น นั่งดุทีวี ,อ่านหนังสือ ,ดูมือถือ , เล่นคอมพิวเตอร์ หรือใช้งานภายในบ้านให้ชินเสียก่อน ค่อยนำไปใส่เดิน ไม่อย่างนั้นอาจจะสะดุดได้

เลนส์โปรเกสซีฟ (Progressive Lens)

คือเลนส์หลายชั้นไร้รอยต่อที่ออกแบบมาเพื่อผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ที่มีปัญหาในการมองระยะใกล้ หรือผู้ที่มีปัญหาการมองหลายระยะ โดยที่ไม่จำเป็นต้องถอดเข้าออกหรือมีแว่นหลายอัน ช่วยให้สะดวกในการใช้งานมากขึ้น การผลิตเลนส์ในปัจจุบันได้มีการใช้ Freeform Technology ที่จะทำให้สามารถออกแบบโครงสร้างเลนส์แบบไหนก้อได้ โดยมอบการมองเห็นที่คมชัดในทุกระยะ พร้อมการเปลี่ยนผ่านจากระยะใกล้ไปหาไกลได้อย่างนุ่มนวลไร้รอยต่อ

เมื่อไหร่ควรใช้เลนส์โปรเกรสซีฟ
หากลูกค้ามีอาการเหล่านี้อย่างน้อย 3 อย่าง ใช้เลนส์โปรเกรสซีฟ ตอบโจทย์แน่นอนค่ะ
1.เมื่อเริ่มมองใกล้ไม่ชัด บางรายเห็นภาพซ้อน
2.รำคาญที่ต้องคอยถอดแว่นเข้า-ออก เป็นประจำ เพราะมองใกล้ไม่ชัด 
3.ต้องมองลอดแว่นเพื่อจะมองไกล ทำให้เสียบุคลิก 
4.อ่านหนังสือยากขึ้นเมื่อแสงน้อย เริ่มมีอาการปวดกระบอกตา ปวดขมับ หรือปวดหัว

เลนส์ย้อมสี

เป็นเลนส์ที่ผ่านการย้อมสีจากสีใส เป็นแว่นกันแดดพร้อมค่าสายตาที่หลากหลายสำหรับทุกกิจกรรมและไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้รักการผจญภัย แฟชั่นนิสต้า คนรักการออกกำลัง หรือนักท่องโลก เราก็มีเทคโนโลยีปกป้องแสงอาทิตย์ที่เหมาะกับคุณเลนส์ย้อมสีมีทั้งข้อดีและข้อเสียหรือข้อจำกัด โดยข้อดีของเลนส์ย้อมสีมีอยู่หลากหลายประการด้วยกัน

ข้อดี
– ช่วยลดแสงจ้าทำให้สบายตามากขึ้นเมื่ออยู่ในที่ที่มีแสงมาก
– ช่วยป้องกันรังสี UV
– ช่วยป้องกันแสงสีฟ้า
– มีความสวยงาม เหมาะกับการเป็นแว่นตาแฟชั่น
– มีทั้งแว่นแบบมีค่าสายตาและไม่มีค่าสายตา เป็นต้น

ข้อเสีย
– ไม่สามารถใช้ได้ในที่ที่มีแสงน้อย 
– ไม่เหมาะกับการใช้ในทุกกิจกรรม
– สีของเลนส์อาจทำให้ไม่เหมาะกับบางโอกาส